ผิวแห้ง เรียกได้ว่าเป็นปัญหาที่กวนใจใครหลายคน ไม่ใช่แค่เรื่อง Beauty standard แต่นี่คือหนึ่ง ในความรำคาญสำหรับชีวิต จนอาจก่อให้เกิดโรคผิวหนังอื่น ๆ ตามมาอย่างเช่น ความคัน ผิวลอก ตกสะเก็ด และอีกมากมาย การจะทำให้ผิวชุ่มชื้นนั้นต้องเริ่มจากต้นตอ ถ้าแก้ปัญหาถูกจุดบอกเลยง่ายนิดเดียว ใครอยากผิวเนียนสวย สุขภาพดี เรามีเคล็ดไม่ลับ ทำแล้วเห็นผลแน่นอนมาฝาก
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่
วิธีแก้ปัญหาผิวแห้ง ให้กลับมาเป็นผิวฉ่ำน้ำ เนียน สุขภาพดี!
ผิวแห้ง อาจฟังดูเหมือนกับว่าเป็นสภาพผิวธรรมดาของคนทั่วไป แต่ความจริงแล้วนี่คือปัญหาจุกจิกกวนใจในชีวิตของใครหลายคน โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาว ผิวแตก ลอก เป็นขุยหนัก ทาครีมอะไรก็ไม่หายสักทียิ่งต้องรีบรู้สาเหตุ เร่งมือเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิวก่อนสายไป
ผิวแห้ง เกิดจากอะไร?
- ปัจจัยภายนอกร่างกาย
– ชั้นผิวหนังสูญเสียความชุ่มชื้น อาจเกิดจากสารต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสกินแคร์ผลัดเซลล์ผิว การขัดผิวบ่อย หรือแม้กระทั่งการอาบน้ำอุ่น
– สภาพอากาศ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว เมื่อความชื้นในอากาศน้อยลง ผิวก็จะสูญเสียความชุ่มชื้น อุณหภูมิในห้องแอร์ที่เย็นจนเกินไปก็เป็นหนึ่งในปัจจัยน่าจับตามองเช่นกัน
- ปัจจัยภายในร่างกาย
– ร่างกายสูญเสียสมดุลการสร้างไขมันใต้ชั้นผิวหนัง
– ผิวเสียสมดุลในการกักเก็บน้ำจนกระทั่งเกิดโรคผิวหนัง
– อายุมากขึ้น
วิธีดูแลผิวเพื่อกักเก็บความชุ่มชื้น
1.อาบน้ำอุณหภูมิปกติ เป็นเรื่องเบสิกที่ชาวผิวแห้งควรรู้ไว้หากอยากผิวเนียน สุขภาพดี ก็แค่อาบน้ำธรรมดา เนื่องจากน้ำอุ่นนั้นจะไปทำการชะล้างน้ำมันที่อยู่บริเวณผิว ซึ่ง เปรียบเสมือนเกาะป้องกันผิวออกไปจนหมดสิ้น จะทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น รู้แล้วจำ นำไปใช้กันนะคะ
2.ใช้สบู่ค่า PH 5.5 เพื่อน ๆ คงเคยได้ยินกันมาว่าสบู่ที่ดีจะต้องมีค่า PH 8 – 10 เพื่อให้ชำระล้างสิ่งสกปรกออกจากร่างกายได้อย่างหมดจด แต่สำหรับคนผิวแห้งนั้นจะยิ่งทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้นเข้าไปใหญ่ ยิ่งถ้าเจอสบู่ฟองเยอะ จนรู้สึกตึงผิวหลังอาบน้ำเสร็จก็ยิ่งต้องเปลี่ยนมาใช้ค่า PH 5.5 ซึ่ง มีความเป็นกรดอ่อน ๆ ใกล้เคียงกับธรรมชาติผิวหนังของมนุษย์ จะดีกว่า
3.หลีกเลี่ยงการขัดผิวบ่อย การขัดผิว ถือเป็นเรื่องดี เพราะช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไปจากร่างกายเร็วยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ไม่ควรจะทำบ่อย เพราะการขัดผิวจะทำให้ผิวของเรานั้นแห้งจนเกินไป ควรทำเพียงสัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้งก็พอ
4.ชุ่มชื้นจากภายใน อยากผิวอิ่มน้ำ ไม่จำเป็นต้องเสริมด้วยวิตามิน นู่น นั่น นี่ ขอเพียงแค่กินอาหารครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะสิ่งที่อุดมไปด้วยวิตามินซี โอเมก้า ดื่มน้ำอย่างเพียงพอไม่ใช่แค่วันละ 8 แก้ว หากยึดตามมาตรฐานที่ทางจากสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ (NAS) และสถาบันแพทยศาสตร์ (IOM) วิจัยผู้หญิงดื่มน้ำในปริมาณ 2.7 ลิตร / วัน และผู้ชายก็ควรได้รับน้ำในปริมาณ 3.7 ลิตรต่อวัน ข้อสำคัญคือห้ามดื่มมากเกินไปเพราะจะส่งผลเสียต่อร่างกาย ทำให้ไตเกิดภาวะ Hypoosmolarity จนกระทั่งร่างกายเกิดความมึนงง สับสน อาจถึงขั้นหมดสติหรือเสียชีวิตได้
ไอเทมเสริมป้องกันความชุ่มชื้นหายไปจากผิว
1.ทาโลชั่นบำรุงผิวที่ให้ความชุ่มชื้น นี่คือขั้นตอนสำคัญในการเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิวขั้นแอดวานซ์ ซึ่งทริคในการเลือกบอดี้โลชั่นสำหรับคนผิวแห้งที่เราอยากแนะนำมีดังต่อไปนี้
– ดูจากส่วนผสมที่เน้น Hyaluronic Acid, Niacinamide หรืออีกชื่อของเขาก็คือ Vitamin B3 จะช่วยทั้งป้อนและกักเก็บความชุ่มชื้นไม่ให้หายไปจากผิวของเรา ยิ่งถ้าใช้กับผิวหน้าก็ยิ่งต้องเลือกให้ดี
– เลือกเนื้อสัมผัสไม่บางเบาจนเกินไป ยกตัวอย่างเช่นเนื้อครีม โลชั่น เจล แต่ถ้าเป็นประเภทเซรั่มก็อาจจะคงความชุ่มชื้นให้แก่ผิวของเราได้ไม่นานเท่าไรนัก เนื้อครีมไม่ได้เป็นเพียงแค่ความชอบส่วนบุคคล แต่มีผลกับผิวของเราจริง ๆ
2.ครีมกันแดดห้ามขาด เพื่อน ๆ ทราบหรือไม่ว่าหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ความชุ่มชื้นของผิวเราหายไปอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้นก็คือแดด ตัวดี ตัวก่อปัญหาผิวสารพัดสิ่งตั้งแต่จุดด่างดำ ฝ้า ลามไปจนถึงมะเร็งผิวหนัง ก็มีแต่ครีมกันแดดนี่ล่ะที่ช่วยปกป้องผิวของเราจาก UV อันตรายได้ ถ้าจะให้ดีทาควบคู่ไปกับการสวมเสื้อกันแขนยาว กางเกงขายาวเมื่อต้องออกไปพบเจอกับแสงแดด เพียงเท่านี้ก็เป็นการรักษาผิวแห้งให้กลับมาชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้นได้โดยไม่ต้องพบแพทย์เลยสักนิด
ขอแถมอีกเล็กน้อย เรื่องการเลือกกันแดดต้องเลือกที่ค่ากันแดดสูงหน่อย ตั้งแต่ SPF 30 ขึ้นไป และจริง ๆ ต้องทาตัวในปริมาณที่เยอะมาก แต่ถ้าเป็นกันแดดสำหรับผิวหน้าก็ขอให้เลือกแบบเต็ม Max กันได้ทั้ง UVA และ UVB ทาในปริมาณ 2 นิ้วก่อนออกแดด 20 นาทีและทาซ้ำอีกหนึ่งครั้งหลังผ่านไป 8 ชั่วโมง
และทั้งหมดนี้ก็คือเคล็ดไม่ลับเกี่ยวกับการดูแลผิว สำหรับมนุษย์ผิวแห้งทั้งหลาย ที่เราอยากนำมาบอกต่อ อยากให้เพื่อน ๆ ลองไปทำตามเพราะเป็นแนวทางที่ไม่ยากเลยสักนิด แถมยังเห็นผลจริง แก้ปัญหาผิวลอก คัน เป็นขลุยได้ดีในทุกช่วงฤดู สุดท้ายนี้เราหวังอย่างยิ่งว่าข้อมูลดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนนะคะ
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ DailyLifeStyle