สำหรับข้าวเหนียวมะม่วง เรียกได้ว่าเป็นอาหารหวานที่อร่อยมาก ๆ เลยก็ว่าได้ แต่ถ้าหากเรากินมากจนเกินไป ก็จะส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ ทำให้เจ็บคอบ้าง ปวดหัวบ้าง บางคนก็เกิดอาการท้องผูก แต่ถ้าเรากินแบบพอดี ไม่กินมากจนเกินไป เราก็จะได้สัมผัสกับของหวานที่อร่อย หวาน มัน จนวางช้อนไม่ลงกันเลยทีเดียวค่ะ นอกจากนี้ยังได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย วันนี้ Dailylifestyle มีเคล็ดลับการกินข้าวเหนียวมะม่วงอย่างไร ให้ดีต่อสุขภาพ มาฝากทุกคน ต้องกินอย่างไรไปดูกันเลย
ข้าวเหนียวมะม่วง
คุณสมบัติของข้าวเหนียว จะมีรสที่หวาน คนที่กินข้าวเหนียวมะม่วงแบบพอดี พอเหมาะ เราจะได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ กินแล้วช่วยบำรุงสุขภาพ นอกจากนี้ยังช่วยลดเหงื่อ และข้าวเหนียวยังแก้อาการท้องเสียได้
สรรพคุณของข้าวเหนียว ลดอาการปวดท้อง ท้องอืด อาการแน่นท้อง กินแล้วไม่ย่อย รวมทั้งการมีแก๊สอยู่ในกระเพาะจำนวนมาก ถ้าหากจะกินข้าวเหนียวให้มีสรรพคุณทางยา เราจะต้องต้มข้าวเหนียวจนเปื่อย และให้ใส่พุทราแห้งสัก 15 เม็ดแล้วอามาดื่มช่วยลดอาการปวดท้องได้ค่า
ส่วนมะม่วง มีรสชาติที่หวาน มัน เปรี้ยว มีสรรพคุณหลายอย่างเลยค่ะ ทั้งแก้ไอ ทั้งช่วยขับลม นอกจากนี้ยังมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์หลายอย่างเลยทั้งน้ำตาล โปรตีน และวิตามินซี
อากาศที่ร้อนในปัจจุบัน ทำให้ร่างกายของเรากระหายน้ำ คอแห้ง และมันทำให้เราอ่อนเพลียไปด้วย ถ้าหากเรามีสุขภาพที่แข็งแรง ระบบทางเดินอาหารปกติ การทานมะม่วงจะช่วยให้เราชุ่มคอ และแก้อาการร้อนในได้อีกด้วย
มะม่วงที่สุก จะมีน้ำตาลพวกฟรักโทส ถ้าเรากินแบบพอดีไม่กินเยอะจนเกินไป มันจะทำให้เราสดชื่น ช่วยทำให้หายเหนื่อย สำหรับใครที่เป็นแผลในกระเพาะอาหาร ไม่ควรทานมะม่วงนะคะ เพราะจะทำให้คุณปวดท้องได้ รวมไปถึงเด็กๆ ไม่ควรจะกินมากไป อาจจะทำให้แน่นท้อง ท้องอืดได้
สิ่งที่ควรรู้ในการทานข้าวเหนียวมะม่วง
ใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร กระเพาะอาหารเป็นแผล ไม่ควรทานข้าวเหนียวมะม่วง อาจจะแน่นท้อง ท้องอืดได้ ทานไปจะย่อยยาก และในช่วงหน้าร้อนเราไม่ควรทานข้าวเหนียวมะม่วงมากจนเกินไปเพราะว่าจะเกิดอาการร้อนใน เกิดอาการเจ็บคอได้ ช่วงหน้าร้อนแบบนี้ให้เบา ๆ หน่อยนะคะ
เพราะฉะนั้นเราจะต้องทานแต่พอดี ไม่มากจนเกินไป เราจะรู้สึกถึงความอร่อย และได้ประโยชน์จากการทานในครั้งนี้ด้วย กินแบบนี้จะดีต่อสุขภาพของเรา แต่ถ้ากินมากจนเกินไปอาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพของเราได้นะคะ“กินได้ แต่กินให้พอดี”