PM 2.5 ได้เข้ามาเป็นปัญหาในชีวิตประจำวันของเราไปโดยปริยาย สุดท้ายก็กลายเป็นสิ่งที่เราต้องมานั่งแก้ไขกันเอง เครื่องฟอกอากาศ จึงกลายเป็นตัวช่วยสำคัญในชีวิตอีกอย่างหนึ่ง ที่เราต้องลงทุนกับมัน เพื่อช่วยให้สุขภาพไม่ย่ำแย่ไปกว่าเดิม แต่ราคาก็ค่อนข้างสูง จะซื้อยี่ห้อไหนดีให้คุ้ม กรอง PM 2.5 ได้ วันนี้ DailyLifeStyle มี 8 รุ่นขวัญใจมหาชนมาแนะนำ
แนะนำ 8 เครื่องฟอกอากาศ เครื่องกรองอากาศยอดนิยมคนใช้เยอะ
1.Philips AC1215
Philips AC1215 คือหนึ่งในไอเทมกรองฝุ่น PM 2.5 ยอดนิยม ซึ่ง หลายคนให้ความไว้วางใจไม่ใช่เพราะยี่ห้อ Philips แต่เป็นเพราะประสิทธิภาพการทำงาน ถึงแม้ว่ามันจะตกรุ่นไปหน่อยก็ตาม ก็ยังคงได้รับความต้องการ เนื่องจากระบบต่าง ๆ อย่าง เซ็นเซอร์การกรองอากาศอัจฉริยะ เซ็นเซอร์สามารถทำงานได้ในรัศมีกว้าง แถมราคาหลักพัน ไม่ต้องเสียเงินหลักหมื่น
ราคา : 5,990 บาท
2.Philips AC0820
ยังอยู่กันที่แบรนด์ Philips กับเครื่องฟอกอากาศขนาดเล็กกะทัดรัด เจ้าตัวนี้ดีไซน์สวยงาม ตั้งเป็นเฟอร์นิเจอร์ในห้องได้เลย แต่จะเหมาะสำหรับห้องขนาดเล็กเสียมากกว่า คุณภาพไม่น้อยหน้าอย่างแน่นอน สามารถใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่น Philips Air+ ผ่านสมาร์ทโฟน แผ่นกรองของเขาดูดอากาศได้รอบทิศทาง มีแผ่นกรองทั้งหมดสามชั้น ซึ่ง หากต้องการถอดแยกชั้นออกมาล้าง รุ่นนี้ทำไม่ได้นะจ๊ะ แต่โดยรวมแล้วถือว่าดี ทำงานเสียงเบา ไม่รบกวนเราอยากแน่นอน
ราคา : 3,290 บาท
3.Xiaomi Smart Air Purifier 4 Lite
เครื่องกรองอากาศ ยี่ห้อไหนดี? ราคาจับต้องง่าย ความปังก็คือแบรนด์นี้เขาใช้แผ่นกรองเฉพาะที่สร้างขึ้นมาเอง และเคลมว่ามีประสิทธิภาพสูงกว่า ฟอกอากาศได้สะอาดมากกว่า ใช้พลังงานน้อยกว่าและเสียงรบกวนน้อยกว่า แต่ด้วยความที่ราคาของเขาเบาสบายกว่าแบรนด์อื่น ๆ ก็ย่อมและมาด้วยข้อด้อยหลายอย่าง ทั้งประสิทธิภาพในการทำงานของเซนเซอร์ยังเทียบเท่าแบรนด์ชั้นนำ หรือแบรนด์ที่ราคาแพง ๆ ไม่ได้ แต่ก็ถือเป็นตัวเลือกสำหรับคนงบน้อย เพราะใช้งานง่าย แผ่นกรองราคาไม่แพง และที่สำคัญสามารถสั่งงานผ่านแอปพลิเคชันได้ด้วย
ราคา : 3,190 บาท
4.Smart Air the Sqair
ถ้าเพื่อน ๆ เน้นใช้งานง่าย ในราคาประหยัด อยากได้เครื่องกรองอากาศ มินิมอล ดีไซน์สวย เหมาะสำหรับตั้งในห้องเล็ก ๆ เราขอแนะนำเจ้า Smart Air the Sqair แบงค์พันสามใบมีทอน!! รูปร่างน้องเป็นทรงสี่เหลี่ยมคล้ายตู้เล็ก ๆ มีขาตั้งไม้ และทางแบรนด์เขาใส่แผ่นกรองมาให้แค่ชั้น HEPA เท่านั้น ไม่กำจัดกลิ่นนะจ๊ะ แต่ก็ดักจับฝุ่นละออง ไวรัส พวกขนสัตว์ได้ดี ค่า CADR สูงถึง 315 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ขนาดจิ๋วแบบนี้แต่เกินตัวไปมาก ใครตามหาเครื่องฟอกอากาศแนวนี้อยู่ ห้ามพลาดเด็ดขาด!!
ราคา : 2,791 บาท
5.Bwell CF-8005
ขยับมาที่รุ่นใหญ่หน่อยอย่าง Bwell CF-8005 ซึ่งเป็นแบรนด์เพื่อสุขภาพที่เราคุ้นหน้าค่าตากันดี เจ้าตัวนี้มีจุดเด่นอยู่ที่เขาฟอกอากาศผ่าน 6 ขั้นตอน สามารถกรองได้ทั้งฝุ่น กลิ่น แบคทีเรีย บรรดาขนสัตว์ เกสรดอกไม้ใด ๆ เอาอยู่แน่นอน คนเป็นภูมิแพ้ต้องมีติดห้อง รัศมีการทำงานของเขาอยู่ที่ 10-20 ตารางเมตรเลยทีเดียว เหมาะสำหรับเป็นเครื่องกรองอากาศในออฟฟิศ ในบ้าน ตั้งที่ห้องรับแขก เป็นรุ่นที่ซื้อแล้วคุ้มมาก
ราคา : 5,592 บาท
6.Coway AP-1516D Storm
มาต่อกันที่เครื่องฟอกอากาศรุ่นใหญ่ แบรนด์ดังสัญชาติเกาหลีอย่าง Coway มีจุดเด่นตรงที่เขาสามารถกรองฝุ่นขนาด 0.02 ไมครอนได้ ผ่านระบบการกรอง 4 ชั้น ครอบคลุมพื้นที่ 49.5 ตารางเมตรเลยทีเดียว ซึ่งถือว่าเยอะมาก เหมาะสำหรับบ้านทั้งหลัง สำนักงาน และอีกมากมาย แสดงคุณภาพอากาศได้แบบเรียลไทม์ ปรับระดับพัดลมได้ 3 ทิศทาง ซื้อตัวเดียวคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม
ราคา : 18,410 บาท
7.Dyson Pure Cool Air Purifier Fan
น้อง Dyson ตัวนี้เป็นพัดลมกรองอากาศที่มีความสามารถมากกว่าดีไซน์สวยงามก็คือประสิทธิภาพในการใช้งานนี่ล่ะ เขาสามารถกำจัดมลพิษที่มีขนาดเล็กถึง 0.1 ไมครอน นอกจากเป็นพัดลมไร้ใบพัดที่สามารถปรับระดับความแรงของลมได้ถึง 10 ระดับ มันดีงามตรงที่นอกจากจะกรองอากาศสะอาด ช่วยให้ความเย็นในห้องแล้ว สาว ๆ ก็ยัง Adapt ใช้ เป่าผมเหมือนพัดลมได้อีกด้วย อาจจะไม่ถูกหลักแต่ก็ใช้ได้เช่นกัน การสั่งงานเป็นไปอย่างง่ายดายผ่านรีโมทคอนโทรล
ราคา : 13,900 บาท
8.Blueair Blue 3210
ขอพาเพื่อน ๆ มาส่งท้ายกันด้วยตัวช่วยกรอง PM2.5 อย่าง Blueair Blue 3210 ตัวนี้ขนาดเล็กกะทัดรัด สามารถกรองได้หลากหลายสิ่งอย่างตามแบบฉบับเครื่องกรองทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น ละออง เชื้อโรค กลิ่น ขนสัตว์ สามารถแสดงผลผ่านจอ LED ได้ผ่านการควบคุมเพียงปุ่มเดียวเท่านั้น ตัวเล็กแบบนี้พกพาง่ายมาก น้องเหมาะสำหรับกรองอากาศในห้องขนาดเล็ก กรองอากาศในรถ หรือพื้นที่ไม่กว้างมาก ที่หลายคนไม่ค่อยเลือกใช้เพราะน้องราคาค่อนข้างแรงไปหน่อยเมื่อเทียบกับเพื่อนที่สามารถทำงานได้ใกล้เคียงกัน แต่ราคาถูกกว่าเกินครึ่ง
ราคา : 7,920 บาท
และนี่ก็คือทั้ง 8 เครื่องฟอกอากาศดี ๆ ตัวช่วยในการสร้างอากาศบริสุทธิ์ที่เราอยากแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้รู้จัก แต่ละยี่ห้อมีความแตกต่างกันทางด้านราคา ประสิทธิภาพในการใช้งาน ซึ่ง เพื่อน ๆ สามารถเลือกตามความเหมาะสม และงบประมาณกันได้เลย สุดท้ายนี้เราหวังอย่างยิ่งว่าบทความดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนนะคะ