เพื่อน ๆ เคยได้ยินไหมคะว่าถ้าเราเลือกใช้ครีมกันแดดผิดชีวิตเปลี่ยน การใช้ครีมหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวทุกตัวไม่ว่าจะใช้เพื่อบำรุงผิวหรือป้องกันรังสียูวีที่มากับแสงแดด เราควรเลือกที่เหมาะกับสภาพผิว เพราะบางครั้งอาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองของผิวได้ ถ้าต้องให้หลีกเลี่ยงการถูกแดดเผาในวันที่มีแดดแรงจัดก็คงจะยาก ดังนั้น เราต้องหาวิธีป้องกันตัวเองจากรังสียูวีและแสงแดดกันค่ะ และการมองหากันแดดที่เหมาะกับผิวไม่ใช่เรื่องง่ายเลยค่ะ บางครั้งไม่แน่ใจว่าจะต้องใช้ SPF ขนาดเท่าไหร่? วันนี้ DailyLifeStyle มีทริคดี ๆ บอกต่อกับวิธีการเลือกกันแดดที่เหมาะกับสภาพผิว มาให้สาว ๆ ได้เลือกซื้อครีมที่เหมาะกับตัวเองค่ะ ทริคดี ๆ จะมีอะไรบ้าง ไปติดตามกันได้เลย
วิธีการเลือกครีมกันแดดที่เหมาะกับสภาพผิว
เรามีคำแนะนำดี ๆ พร้อมท้าแดดได้อย่างมั่นใจ ยิ่งแดดเมืองไทย แรงแบบปรอทแตก เรายิ่งต้องเตือนทุกคนว่าอย่าลืมทากันแดดกันด้วยนะคะทุกคน เพราะยูวีร้ายกว่าที่คิดเอาไว้เยอะ พร้อมแล้วตามไปดูกันเลย
1.ควรเลือกครีมที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป
การเพิ่มค่า SPF เป็นสองเท่าไม่ได้หมายความว่าจะเพิ่มการป้องกันแดดเป็นสองเท่านะคะ ค่า SPF 15 จะปิดกั้นรังสี UVB ได้ประมาณ 93% ในขณะที่ SPF 30 จะช่วยกรองได้ประมาณ 97% และ SPF 50 กรองรังสีที่เป็นอันตรายได้ประมาณ 98% ทั้งนี้ ระหว่าง SPF 30 และ SPF 50 ไม่ค่อยมีความแตกต่างกันเท่าไร และความจริงก็คือ ไม่มีกันแดดทาหน้าตัวไหนที่สามารถกรองรังสียูวีได้ทั้งหมด ดังนั้น กันแดดทาหน้าที่มีทั้งสเปกตรัมกว้าง (ป้องกันทั้งรังสี UVA และ UVB) และมีค่า SPF สูงกว่า 30 ขึ้นไป จะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า และวิธีการเลือกครีมที่เหมาะกับสภาพผิวขอแนะนำเลยว่า ยิ่งมีค่า SPF สูงเท่าไร ครีมกันแดดหน้านั้นก็จะหนามากขึ้นไปอีกด้วยค่ะ
2. ควรเลือกใช้ครีมสูตรกันน้ำ
กันแดดทาหน้าสูตรกันน้ำ เหมาะสำหรับวันที่ต้องเจอกับอากาศร้อนเป็นเวลานาน แม้ว่าสาว ๆ จะแค่เจออากาศร้อนจนเหงื่อออกแต่ไม่ได้ลงน้ำก็ตาม และ DailyLifeStyle ขอบอกเลยว่า ไม่มีกันแดดตัวใดที่สามารถกันน้ำได้ร้อยเปอร์เซ็นต์แน่นอน ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงครีมกันแดดทาหน้าที่อ้างคุณประโยชน์เกินจริง โดยครีมสูตรกันน้ำทั่วไปสามารถกันน้ำได้นานระหว่าง 40 ถึง 80 นาที เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด จึงควรทากันแดดหน้าอย่างน้อยทุก ๆ 2 ชั่วโมง และบ่อยครั้งขึ้นหากสาว ๆ ไปว่ายน้ำหรือเหงื่อออกมากระหว่างวัน
3. ควรเลือกใช้ครีมที่เหมาะกับสภาพผิว
แนะนำให้หากันแดดทาหน้าที่เหมาะกับประเภทผิวเฉพาะของแต่ละคน เพื่อให้ได้รับการปกป้องที่ดีจากครีมนั้น ๆ หากมีผิวเป็นสิวง่ายหรือผิวมันง่าย ขอแนะนำครีมกันแดดทาหน้าสูตรน้ำที่มีเนื้อไม่มันวาว และติดฉลากว่า “ไม่อุดตันรูขุมขน” ด้วยนะคะ สำหรับสาวผิวแห้ง เป้าหมายหลักควรเพิ่มความชุ่มชื้น ก็ควรเลือกครีมที่อุดมไปด้วยส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้น เช่น เซราไมด์, กลีเซอรีน, กรดไฮยาลูโรนิก เป็นต้น จึงจะเหมาะสมกับผิว
4. ควรใช้กันแดดเนื้อครีมมากกว่าใช้แบบสเปรย์
กันแดดแบบสเปรย์อาจมีความสะดวกสบายในการใช้งาน แต่ก็บอกเลยว่ายากที่จะรับประกันว่าจะมีครีมซึมเข้าสู่ผิวของสาว ๆ ได้อย่างเพียงพอ หากครีมกันแดดมีเนื้อใส ทั้งนี้ เพื่อการปกปิดที่มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง ควรเลือกที่เป็นเนื้อครีมหรือโลชั่นจะให้ผลดีกว่าแบบสเปรย์ หากจำเป็นต้องใช้สเปรย์ ขอแนะนำให้พ่นผลิตภัณฑ์เป็นชั้นหนา ๆ หลาย ๆ รอบบนผิวของสาว ๆ เลยนะคะ
วิธีทาครีมกันแดดที่ถูกต้อง
การทากันแดดให้ถูกวิธีเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ซึ่งหลาย ๆ คนอาจทาครีมแบบบาง ๆ กันอยู่ เพราะไม่ชอบความเหนียวเหนอะหนะของครีม และอีกหลายคนทากันแดดวันละหลาย ๆ รอบ เพราะคิดว่าเพียงพอต่อการป้องกันแดด แต่การทาครีมที่ไม่เพียงพอ บางครั้งอาจไม่ได้ช่วยปกป้องผิวของเราหรือลดอันตรายของแสงแดดลงได้
การทากันแดดที่ดีคือใช้ 1 ช้อนชา หรือ 2 ข้อนิ้วมือ สำหรับบริเวณใบหน้าและลำคอ นอกจากนี้ควรทาอย่างน้อย 2 ครั้ง/วัน หรือทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง หากมีเหงื่อออกมากจากกิจกรรมกลางแจ้งหรือกิจกรรมในน้ำ และควรทาครีมอย่างน้อย 15 นาที ก่อนออกแดดนะคะ เพื่อให้เนื้อครีมเคลือบบนผิวและทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ พร้อมที่จะสู้กับรังสียูวีและแสงแดดที่รุนแรงของประเทศไทยเรา
Tips : สำหรับคนที่พึ่งเริ่มใช้ควรทากันแดดในปริมาณน้อย ๆ ก่อนนะคะ แล้วค่อย ๆ เพิ่มปริมาณขึ้น เพราะถ้าหากเกิดอาการแพ้ หรือมีผลข้างเคียงอื่น จะได้แก้ไขได้ทัน และควรรีบปรึกษาแพทย์ผิวหนังทันทีเมื่อเกิดอาการแพ้
เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อน ๆ ทุกคน กับวิธีการเลือกครีมกันแดดที่เรานำมาแนะนำกันในวันนี้ บอกเลยว่าทริคเหล่านี้จะทำให้คุณใช้ชีวิตท้าแดดได้อย่างมั่นใจ แดดแรงแค่ไหนก็ไม่หวั่นแล้วจ้า และอย่าลืมไปช็อปกันแดดมาป้องกันยูวีตัวร้ายกันนะคะ และขอเตือนเลยว่าอย่าลืมทากันแดดก่อนออกจากบ้านด้วยนะคะทุกคน
