ขนมอินทนิล เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งขนมไทยโบราณ หาทานยากขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามต่างจังหวัด ฉะนั้นคนที่อยากทานจะต้องหาวิธีทำขนมกินเอง แต่จะไปลองผิด ลองถูกตามสูตรในอินเตอร์เน็ตก็ต้องปรับรสชาติ และวิธีการให้เข้ากับความชอบของตัวเอง และนี่คือสูตรเด็ดที่เราคัดมาแล้วว่าอร่อยจริง ยิ่งกว่าร้านดัง ทำกินเองโคตรฟิน ทำขายลูกค้าเพียบ!!
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่
วิธีทำขนมอินทนิล ของหวาน ไทยโบราณ สูตรเด็ดที่ไม่เป็นความลับอีกต่อไป!!
ขนมอินทนิล หรืออีกหนึ่งชื่อเรียกแบบเล่น ๆ ของเขาก็คือขนมหยกสด มองผิวเผินหน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกับบัวลอย แต่เนื้อแป้งใส หอมใบเตยเหมือนเปียกปูน เนื้อแป้งเหนียวหนึบ นุ่มประหนึ่งไข่มุก แต่ทานในน้ำกะทิ รสชาติมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำทีหนึ่งหอมไกลไปถึงข้างบ้าน แต่เพื่อน ๆ ทราบหรือไม่ว่าความจริงแล้วก่อนนี้ขนมจะมีสีม่วงจากน้ำดอกอัญชัน ทว่าวัตถุดิบนั้นหายากจึงเปลี่ยนมาเป็นใบเตยแทนจนกระทั่งกลายมาเป็นความอร่อย หอมหวาน จนไม่มีขนมชนิดใดเลียนแบบได้จนกระทั่งถึงปัจจุบัน
อินทนิล สูตรเด็ดที่ใคร ๆ ก็ทำได้
ก่อนอื่นเราควรรวมสิ่งต่าง ๆ ให้เข้ากันจนกลายเป็นขนมอินทนิลดั่งใจหวัง เราจะแยกขั้นตอนออกเป็น 3 ส่วนเพื่อให้เพื่อน ๆ เข้าใจง่ายยิ่งขึ้น และเกิดกระบวนการอย่างเป็นลำดับขั้นโดยจะเริ่มจากการทำน้ำเชื่อม เนื้อขนม และน้ำกะทิ ซึ่งสามารถทำได้ดังต่อไปนี้
วิธีทำน้ำเชื่อม อินทนิล
วัตถุดิบ / อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม
– น้ำมะพร้าว 250 ml.
– น้ำตาลทรายขาว 6 ½ ช้อนโต๊ะ
– ใบเตยผูก
– หม้อ
– ทัพพี
ขั้นตอนการทำน้ำเชื่อม
1.นำน้ำมะพร้าวเทลงไปในหม้อ
2.จากนั้นเทน้ำตาลทรายขาวตามลงไป คนให้ละลายสักหน่อย
3.หย่อนใบเตยผูกลงไป ก่อนตั้งไปแรงจนน้ำเชื่อมเดือด
4.หรี่ไฟกลางแล้วทิ้งไว้สักประมาณครึ่งนาทีก่อนยกลงวางเพื่อให้น้ำเชื่อมเย็นตัวลง
วิธีทำน้ำกะทิขนมไทย ให้หอม หวาน อร่อย
วัตถุดิบ / อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม
– กะทิ 500 ml.
– เกลือป่น ½ ช้อนชา
– ใบเตยผูก
ขั้นตอนการทำน้ำเชื่อม
1.นำกะทิเทลงไปในหม้อ
2.ใส่เกลือป่นลงไปแล้วคนให้เข้ากัน
3.หย่อนใบเตยผูกตามไป
4.ตั้งไฟกลางพอกะทิอุ่น ห้ามใช้ไฟแรงเดี๋ยวกะทิจะแตกมัน จากนั้นก็ยกลงมาพักไว้ให้เย็น
อินทนิล หยกสด วิธีทำ
วัตถุดิบ / อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม
– แป้งมันสำปะหลัง 100 กรัม
– น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ
– น้ำใบเตยคั้น 500 ml.
– ภาชนะ เช่นชามใบใหญ่
– กระทะ ได้ทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นเชฟร่อน กระทะเหล็กหรือทองแดง
– ไม้พาย แนะนำเป็นของแข็ง อย่างเช่นวัสดุที่ทำจาก “ไม้”
– ถุงบีบ
– ถุงมือพลาสติก
ขั้นตอนการทำเนื้อขนม
1.นำแป้งมันสำปะหลังใส่ลงไปในชามใบใหญ่ ในส่วนนี้ใครจะใช้แป้งท้าวยายม่อมด้วยก็ได้ จะให้ความหนืด ใส เนื้อขนมอินทนิลคืนตัวได้ยาก แต่สำหรับคนที่ชอบความหนึบ นุ่มคล้ายกับไข่มุกในชานม แนะนำว่าไม่ต้องผสมแป้งท้าวยายม่อมลงไป
2.ผสมน้ำตาลลงไปในปริมาณที่กำหนด ละคนให้เข้ากันสักหน่อย
3.ใส่น้ำใบเตยที่ทำการคั้นและกรองกากทิ้งแล้วเป็นที่เรียบร้อยตามลงไป จากนั้นใช้ไม้พายคนให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้าเป็นเนื้อเดียวกันโดยที่แป้งมันสำปะหลังไม่แข็งและเป็นก้อน ใครชอบความเขียวปี๋ แนะนำว่าให้เติมสีผสมอาหารลงไปหน่อย จะได้สีที่เข้ม น่าทานมากยิ่งขึ้น
4.เทส่วนที่ผสมจนเข้ากันดีแล้วลงในกระทะ จากนั้นตั้งไฟเบาก่อน
5.ค่อย ๆ ใช้ไม้พายคนวนไปเรื่อยในทิศทางเดิมตลอด จะทำให้ได้เนื้อนมอินทนิลที่เนียนมากยิ่งขึ้น ลดโอกาสเกิดฟองอากาศ สักพักเนื้อแป้งจะเริ่มจับตัวกันเป็นก้อนและกวนยากขึ้นเรื่อย ๆ
6.กวนอยู่สักประมาณ 5 นาที สังเกตให้แป้งเป็นสีใสทุกอาณาบริเวณก็ค่อยปิดไฟแล้วยกแป้งลงมาได้
7.เมื่อแป้งเริ่มอุ่น ๆ ไม่ร้อนเกินไปก็นำมาใส่ถุงบีบแป้งสีเขียวลงในน้ำเชื่อมให้ตัดเป็นก้อนกลม ๆ โดยใส่ถุงมือพลาสติกแล้วใช้นิ้วจุ่มน้ำเชื่อมขึ้นมาเพื่อตัดก้อนแป้งจะง่ายมากที่สุด และหากไม่มีน้ำเชื่อมหล่อเลี้ยง แป้งก็จะเหนียวติดถุงมือจนไม่สามารถตัดได้เลยล่ะ
8.จากนั้นเทน้ำกะทิลงไปรวมกันก็เป็นอันว่าเสร็จสิ้น แต่ถ้าจะเพิ่มความอร่อยเข้าไปเป็นสิบเท่าทวีคูณก็ต้องทำอินทนิล มะพร้าวอ่อนและใช้เนื้อมะพร้าวอ่อน ๆ ขูดแล้วใส่ลงไปในขนมด้วย ช่วยเพิ่มสัมผัสความกรอบเบา ๆ หอม สดชื่นอย่างยิ่ง
ข้อแนะนำในการทานขนมอินทนิล
นี่คือเคล็ดลับในการทานขนมให้อร่อยชื่นใจมากยิ่งขึ้น เราขอแนะนำให้เพื่อน ๆ นำขนมไปแช่เอาไว้ในตู้เย็น จะเพิ่มความเหนียวของขนมอินทนิลขึ้นไปอีกขั้น หรือถ้าใครอยากใส่น้ำแข็งก็ได้เช่นกัน แต่อาจจะต้องปรับสูตรเพิ่มความหวานกันเล็กน้อย เนื่องจากสูตรที่เราให้ไปนั้นความหวานกำลังดีอยู่แล้ว
และนี่ก็คือทั้งหมดของการแนะนำสูตร ขนมอินทนิล แสนอร่อย หรือหยกสดที่หลายคนตามหา และอยากลองทำ บอกเลยว่าเมนูนี้ใครหยิบไปขายลูกค้าเข้าร้านดีแน่นอน แต่ตอนทำก็อาจจะรู้สึกเหนื่อยหน่อย โดยเฉพาะตอนกวน ทำแขนขึ้นกล้ามแน่นอน และสุดท้ายนี้เราหวังอย่างยิ่งว่าสูตรขนมไทยดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนนะคะ
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ DailyLifeStyle