กำลังมองหาคีย์บอร์ด Mechanical กันอยู่ใช่ไหมคะ โดยเฉพาะสำหรับเพื่อน ๆ ที่ทำงานเอกสารอยู่บ่อยครั้ง ใช้แป้นพิมพ์ปุ่มยางทั่วไป หรือแป้นพิมพ์ Laptop ปุ่มกดแข็ง ต้องออกแรงเยอะจนปวดมือ วันนี้เรามี 7 คีย์บอร์ดแบบกลไกรุ่นยอดฮิต มี Numpad หรือปุ่มตัวเลข จำกัดราคาไม่เกิน 4,000 บาทมาแนะนำ บอกเลยวงการเกมมิ่งเขาใช้กันมานาน ช่วยพิมพ์งานได้อย่างรวดเร็ว ถ้าพร้อมแล้วต่อไปนี้อาจเป็นรุ่นที่ถูกใจคุณก็ได้นะ
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่
7 คีย์บอร์ด Mechanical แนะนำ รีวิวคีย์บอร์ดน่าใช้ สำหรับสายทำงาน!
1. Gconic A98 Wireless Mechanical Keyboard
มาเริ่มต้นกันด้วยคีย์บอร์ด Low Profile ไร้สาย แบรนด์ไทยชื่อดัง ที่เหมาะสำหรับคนใช้ Laptop มาตลอด อยากเปลี่ยนมาลองคีย์บอร์ด Mechanical แต่กลัวไม่ใช้ปุ่มสูง ข้อดีของเขาก็คือไม่ต้องกดลึกมาก ทำให้การพิมพ์งานเอกสารเป็นไปอย่างรวดเร็ว มาพร้อมคีย์แคบไทย-อังกฤษ Front อ่านง่าย สบายตา มาพร้อม 3 ตัวเลือกสวิตช์ได้แก่ Blue Switch, Brown Switch และ Red Switch แต่ถ้าทำงานออฟฟิศร่มกันกับเพื่อน ๆ คนอื่น แนะเป็น Red Switch จะได้ไม่รบกวนชาวบ้านเขาจนเกินไป
ราคา : 3,990 บาท
2. Royal Kludge RK S98 Wireless Mechanical Keyboard
ในบรรดาคีย์บอร์ด Mechanical ราคาไม่เกิน 3,000 บาท แต่ฟังก์ชันการใช้งานจัดเต็มก็ต้องยกให้ RK S98 ตัวนี้ เขาเป็นคีย์บอร์ดมี Numpad ในตัว แถมยังมาพร้อมหน้าจอ Display กับปุ่ม Knob ค่อนข้างหายากในราคาใกล้เคียงกัน ดีไซน์น่ารัก สวย สดใส ซึ่งถ้าใครไม่ชอบสวิตช์ที่ทางแบรนด์เขาให้มาก็สามารถถอดเปลี่ยนได้เลย รองรับ Hot-Swappable ไม่ต้องนั่งบัดกรี ไฟ RGB แสงสีลิเกตามสไตล์เกมเมอร์ก็มีครบครัน เชื่อมต่อได้ทั้งแบบไร้สายผ่านองเกิล 2.4GHz และแบบมีสาย
ราคา : 2,999 บาท
3. XINMENG X98 Pro-Mechanical keyboard
คีย์บอร์ด Mechanical แบรนด์ใหม่ ๆ มีให้เห็นกันทุกวัน และถ้าถามถึงคีย์บอร์ดราคาไม่เกิน 2000 บาท ที่สายเซียนเขาแนะนำมาว่าเป็นของถูกและดีก็ต้องแบรนด์ XINMENG สัญชาติจีน ซึ่งเขาเป็นคีย์บอร์ดแบบ Hot-swap 3 โหมดเชื่อมต่อได้ทั้งดองเกิล บลูทูธ และเชื่อมด้วยสาย หลายคนหลงรักในโทนเสียงอันนุ่มละมุนตอนกดพิมพ์ออกแนว Thock ดีไซน์สวย เรียบง่าย ประหยัดพื้นที่ มีสีสันให้เลือกเยอะ ใครเป็นสายมินิมอล ต้องมีติดโต๊ะทำงาน
ราคา : 2,490 – 2,890 บาท
4. James Donkey RS6 Wireless Mechanical Keyboard
โดยรวมน้องคนนี้ถือเป็นแมคคานิคอลคีย์บอร์ด ที่หลายคนอาจจะแนะนำให้ไปใช่ตัวอื่นในแบรนดืเดียวกันมากกว่า เพราะไม่ค่อยมีฟังก์ชันอะไรมากมาย แต่ถ้าถามถึงเรื่องความแน่นของเสียงปุ่มนะบอกเลยว่าคุณจะต้องรู้สึกหลงรักอย่างแน่นอน เพราะกดแล้วฟิน มีความหนึบ ๆ หน่อย มีสวิตช์ให้เลือกครบครัน แถมสีสันของตัวคีย์บอร์ดยังน่ารัก มาพร้อมปุ่ม Knob เพิ่มลดเสียง ไม่ว่าจะเป็นสายเล่นเหม หรือทำงานก็ต้องถูกใจคีย์บอร์ด Mechanical ตัวนี้ด้วยกันทั้งนั้น
ราคา : 3,790 บาท
5. Loga Ravana 2 SIRIMONGKOL
ตัวนี้ก็จัดว่าเป็นอีกหนึ่งคีย์บอร์ดทำงานที่หลายคนชื่นชอบ รุ่นแรกจะเป็นสีขาว ส่วนรุ่นที่ 2 จะเป็นสีดำ บางครั้งก็หาซื้อค่อนข้างยาก เพราะขายหมดไปก่อนแล้ว แบรนด์นี้เขาเล่นกับความเป็นไทย ใส่คีย์แคปสายมูเตลูสุดน่ารักมาให้ มีสวิตช์ให้เลือกสองแบบคือชาไทย (Tactile) และนมเย็น (Linear) แต่สัมผัสการกดของเขาจะค่อนข้างลึกกว่าสวิตช์ตัวอื่น ๆ หน่อย แรงกดประมาณ 47 gf เชื่อมต่อได้ทั้งแบบมีสาย Wireless (Dongle) และ Bluetooth เลย ใครตามหาคีย์บอร์ด Mechanical สวยๆ ห้ามพลาด
ราคา : 3,790 บาท
6. Hello Ganss HS108T V.2 Wireless Mechanical Keyboard
สำหรับ Hello Ganss รุ่นนี้เขาเป็นคีบ์บอร์ด 100% อย่างแท้จริง ซึ่งเหมาะสำหรับสายทำงาน พิมพ์สนุกมาก ดีไซน์ภายนอกสวยบางเพรียว ถึงจะยาวแต่ประหยัดพื้นที่ เหมาะสำหรับคนมีโต๊ะขนาดเล็ก มีให้เลือกถึง 10 สีตามความต้องการ เสียงพิมพ์นุ่มละมุน ใครชอบสวิตช์แบบไหน เบา หรือดัง เลือกกันตามใจต้องการ ความปังก็คือสามารถ Hot-Swappable เองได้รองรับทั้งสวิตช์ทั้งแบบ 3 และ 5 พิน ใครกำลังตามหาคีย์บอร์ด Mechanical เอาไปเปลี่ยนคีย์แคปสวย ๆ เองได้ เสียงดี พิมพ์สนุก งานเสร็จไว บอกเลยว่าของมันต้องมี
ราคา : 3,890 บาท
7. Ajazz AK992 RGB Wireless Mechanical Keyboard
ส่งท้ายกันด้วยคีย์บอร์ด แมคคานิคอล งบน้อย เหมาะสำหรับเป็นตัวเริ่มต้น โยเฉพาะคนที่เปลี่ยนจากคีย์บอร์ด Laptop มาเป็นคีย์บอร์ด Mechanical แต่ยังไม่มั่นใจว่าเราจะชอบคีย์บอร์ดแนวนี้ไหม ควรหันกลับไปใช้ปุ่มเตี้ยแบบเดิมดีหรือเปล่า เจ้า Ajazz AK992 ตอบโจทย์แน่นอน เขามาพร้อมดีไซน์ทันสมัย มีปุ่ม Knob มาให้ก็น่ารักไม่เบา ไฟ RGB เปิดได้เท่าที่ใจต้องการ ส่วนเสียงที่ออกมาจากการกดก็จะออกแนว Clack หน่อย มีให้เลือกระหว่าง Brown Switch กับ Red Switch ดีงามมาก
ราคา : 1,990 บาท
สรุป
และทั้งหมดนี้ก็คือ 7 คีย์บอร์ด Mechanical ที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนได้ลองไปทำความรู้จัก บอกเลยว่าเหมาะสำหรับการทำงานอย่างแท้จริง พิมพ์สนุก พิมพ์งานเร็ว แต่อย่าเพิ่งไปหวังว่ามันจะทำให้เราหลายเป็นสุดยอดมนุษย์นักพิมพ์นะคะ อาจจะต้องอาศัยการฝึกฝนให้ชินมือเนื่องจาก Layout ของแต่ละยี่ห้อนั้นแตกต่างกันออกไป ใครชอบดีไซน์ของแบรนด์ไหน แนะนำให้เข้าฟังเสียงพิมพ์ตามอินเตอร์เน็ตก่อนว่าถูกมจเราจริงไหม เพื่อเป็นตัวช่วยประกอบการตัดสินใจ สุดท้ายนี้เราหวังอย่างยิ่งว่าสิ่งที่นำมาฝากจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนนะคะ
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ DailyLifeStyle