กล่องข้าวไฟฟ้า ค่อนข้างได้รับความนิยมอย่างมากในยุคโควิด-19 ระบาดหนัก เพราะการกินร้อนเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อเราต้องห่อข้าวกล่องแสนอร่อยไปรับประทานที่โรงเรียน หรือที่ทำงานก็ตาม วันนี้เราจึงอยากจะมาแนะนำและรีวิว 8 กล่องข้าวแบบอุ่นอาหารได้ กินร้อน ทำให้มื้อกลางวันล้ำค่ามากยิ่งขึ้น และต่อไปนี้อาจเป็นยี่ห้อที่เหมาะกับคุณก็ได้นะ
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่
รีวิว 8 กล่องข้าวไฟฟ้า น่าใช้ กล่องอุ่นอาหาร ยี่ห้อไหนดี ทนทาน ซื้อแล้วคุ้ม!!
1.Liven Fh18
มาเริ่มต้นกันด้วยปิ่นโตไฟฟ้า อุ่นอาหารสุดน่ารัก มีลูกเล่น ดีไซน์แบบกระเป๋าพกพาอย่างเจ้า Liven Fh18 ตัวนี้เขามาพร้อมฟังก์ชันทำอาหารอัจฉริยะ ที่นอกจากจะอุ่นอาหารแล้วเรายังสามารถพกเข้าป่าไปสำหรับทำอาหารได้อีกด้วยไม่ว่าจะเป็นเมนู ต้ม ตุ๋น ไม่มีไอน้ำให้เสียรสชาติอาหาร กินแล้วเหมือนของทำสดใหม่ วัสดุก็แข็งแรงทนทาน ใช้งานได้อย่างยาวนาน ป้องกันการไหม้ และมีช่องสำหรับจัดเก็บอุปกรณ์ ช้อน ส้อม ตะเกียบ น้ำหนักเพียง 1 กิโลกรัมเท่านั้น จัดว่าเป็นกล่องข้าวไฟฟ้าที่น่าสนใจสุด ๆ
ราคา : 999 บาท
2.Bear Electric Lunch Box – BR0006
กล่องอุ่นอาหารรุ่นนี้ นับว่ามีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย เขาสามารถบรรจุอาหารได้ในปริมาณ 1 ลิตร รักษาความร้อนได้อย่างมีเสถียรภาพ ทำให้รสชาติของอาหารในปิ่นโตยังคงสดใหม่อยู่เสมอ แถมยังใช้ปรุงอาหารนอกบ้านได้อีกด้วย ในหนึ่งเซ็ตของกล่องข้าวไฟฟ้านี้ประกอบด้วยอุปกรณ์หลายชั้น มีทั้งหล่องเก็บข้าว กล่องเก็บแกง ตะแกรงนึ่งไข่ ใช้งานง่ายมาก เพียงกดปุ่มเดียวทุกอย่างก็จะทำงานหน้าที่ของมันอย่างเต็มกำลัง
ราคา : 1,250 บาท
3.Zzuom Electric Lunch Box
มาต่อกันที่อีกหนึ่งกล่องข้าวอุ่นอาหาร สุดน่ารักจากแบรนด์ Zzuom ที่มองภายนอกก็ดูเหมือนจะไม่ต่างจากกล่องข้าวทั่วไปมากนัก แต่พอเปิดมาเท่านั้นล่ะ ตัวเครื่องของเขาสามารถเติมน้ำเข้าไปได้ มาพร้อมกล่องเก็บอาหารขนาดใหญ่ชั้นล่าง 1 ช่องและชั้นบน 2 ช่อง ข้อดีก็คือความสวยงาม สามารถใช้อุ่นร้อนกับข้าวได้อย่างเดียวเท่านั้น ไม่สามารถหุงข้าวได้ แต่ข้อดีก็คือถ้าเราอุ่นกับข้าวเอาไว้จนน้ำเริ่มขอดหม้อระบบก็จะทำการตัดไฟฟ้าแบบอัตโนมัติให้เลยทันที เป็นกล่องข้าวไฟฟ้าที่มีทั้งข้อดีและข้อเสียครบถ้วน
ราคา : 479 บาท
4.Camel Electric Lunch Box
Camel รุ่นนี้เป็นกล่องข้าวอุ่นได้ที่มีกำลังไฟราว ๆ 300w สามารถจัดได้ทั้งแบบชั้นเดียวและสองชั้น ด้านในมีการแยกสัดส่วนชัดเจนว่านี่คือพื้นที่ของข้าว และอีกส่วนสำหรับใส่แกงหรือกับข้าว ช่วยเก็บความร้อนของอาหารได้ดี แถมยังมีกล่องเก็บช้อนมาให้ด้านบน ออกแบบมาโดยคำนึงถึงความสะดวกในการใช้งานเป็นหลัก ที่สำคัญมีระบบหมุนเวียนไอน้ำด้วย เป็นกล่องข้าวไฟฟ้าที่น่ารัก น่าซื้อเอาไว้ให้ลูก ๆ ไปโรงเรียนอย่างมาก
ราคา : 189 บาท
5.Oidire Electric Lunch Box
ใครเป็นสายมินิมอลขอแนะนำ กล่องข้าวไฟฟ้าแบรนด์ Oidire เลยจ้า รูปร่างหน้าตาคือเรียบง่าย น่ารัก ขนาดพกพา น้ำหนักเบา มีสองสีพาสเทลให้เลือกได้แก่เขียวและชมพูละมุน แต่เป็นกล่องอุ่นอาหารไฟฟ้าได้ที่มีเพียงชั้นเดียวเท่านั้น สามารถอุ่นร้อนได้โดยไม่ต้องเติมน้ำ มีถาดสำหรับใส่ข้าว และที่กั้นแยกชั้นกับข้าวมาให้ ตัวเครื่องทำงานเงียบมาก เอาวางไว้ตรงไหนก็ได้ แถมวัสดุเกรดดีพรีเมี่ยมไปอีก ต้องมีแล้วมั้ย!!
ราคา : 639 บาท
6.Xiaomi YouPin Electric lunch Box
หากกล่าวถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า ก็คงจะต้องมีแบรนด์จีนนี้เข้ามาร่วมด้วยทุกครั้ง และเจ้ากล่องอุ่นอาหาร Xiaomi ก็มาพร้อมความน่าสนใจไม่น้อย อยากจะบอกว่าตัวนี้ไม่ต้องใช้ความร้อนจากการเติมน้ำ และยังสามารถหุงข้าวได้อีกด้วย เขามีหน้าจอด้านหน้าเอาไว้บอกเวลาการอุ่น ขนาดเล็กน่ารัก พกพาสะดวก ตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลายรูปเพราะแถมที่หั่นมาให้หลากหลาย ทำอาหารได้แม้กระทั่งเมนูทอดเลยนะขอบอก จะเจ๋งไปไหนเนี่ย!!
ราคา : 1,299 บาท
7.Monda Electric lunch Box
กล่องข้าวไฟฟ้าจากแบรนด์ Monda ก็มีความน่าสนใจเช่นกัน อันดับแรกก็คือเขาโดดเด่นด้วยดีไซน์กล่องสี่เหลี่ยมธรรมดา มินิมอล กล่องนี้มีความจุดถึง 900 มิลลิลิตรเลยล่ะ ใส่อาหารกลางวันไปกิน 1 มื้ออิ่มเอมเปรมปรี แต่อุณหภูมิของเขาก็จะอยู่ที่ประมาณ 60 องศาถ้าทำกับข้าวอาจจะยังรู้สึกว่ายากไปหน่อย เอาเป็นว่าแค่ใช้อุ่นอาหาร สำหรับนำออกไปทานก็พอใช้ได้ แบบเก๋ไก๋
ราคา : 599 บาท
8.Bear DFH-P09D1
ส่งท้ายกันด้วย กล่องข้าวไฟฟ้า ดีไซน์หรูหรา เป็นกล่องถนอมอาหารแบบพกพาขนาดความจุ 900 มิลลิลิตร ที่สามารถอุ่นอาหารได้ในอุณหภูมิสูงสุด 70 องศากำลังไฟ 45 วัตต์ แต่อาจจะไม่เหมาะต่อการทำอาหาร บ้านไหนมีเด็ก ๆ ก็สามารถนำอาหารกลางวันใส่กล่องเอาไปทานที่โรงเรียนได้ด้วยเช่นกัน
ราคา : 810 บาท
และนี่ก็คือทั้ง 8 กล่องข้าวไฟฟ้าที่เราอยากแนะนำให้ทุกท่านได้รู้จัก ซึ่งคุณสมบัติของเขาก็จะแตกต่างกันออกไป บางรุ่นสามารถทำอาหารได้ ส่วนบางรุ่นมีประสิทธิภาพเพียงแค่อุ่นอาหารเท่านั้น เพื่อน ๆ ก็สามารถเลือกได้ตามใจชอบ บวกกับงบประมาณที่มี และนอกจากทั้ง 8 กล่องนี้ก็ยังมียี่ห้ออื่นน่าสนใจอีกมากมาย ส่วนพิกัดของแต่ละชิ้นไปตามหากันได้ทางแพลตฟอร์มออนไลน์เลยจ้า รับรองว่าซื้อมาแล้วคุ้มอย่างแน่นอน ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ DailyLifeStyle
