ถ้าปัญหาของคุณคืออาการ “ง่วง” แต่ดื่มกาแฟไม่ได้ จึงอยากตามหาของกินแก้ง่วงอย่างอื่นแทนก็มาถูกทางแล้วล่ะ เพราะว่าวันนี้เราได้ทำการรวบรวมเอาของกินอร่อย ๆ ซึ่งสามารถแก้ง่วง เปิดตาให้สว่าง เปิดทาง กระตุกจิต กระชากใจ ของคุณขึ้นมาจากความฝันอันงุนงง หายง่วง โดยไม่ต้องงีบ ไม่เสียการเรียน เสียงาน ลดความเสี่ยงหลับในขณะขับรถ ส่วนจะกินอะไรดีให้หายง่วง 9 ของกินต่อไปนี้ช่วยได้แน่นอน
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่
9 ของกินแก้ง่วงที่ไม่ใช่กาแฟ กินอะไรแก้ง่วงแล้วเลิศที่สุด?
1. วิตามินบีรวมตอนเช้า
วิตามินบีรวม คือหนึ่งในส่วนผสมสำคัญของเครื่องดื่มชูกำลังหลายยี่ห้อ เพราะมีส่วนช่วยในการทำงานของระบบประสาทและสมอง ช่วยให้รู้สึกปลอดโปร่ง กระฉับกระเฉงมากยิ่งขึ้น ทั้งด้านร่างกายและอารมณ์ความรู้สึก เหมาะสำหรับคนนอนดึก ทำงานดึก เรียนหรือทำงานหนักแล้วเกิดอาการเหนื่อยล้าสะสม ทำให้ง่วงอยู่ตลอดเวลา หากหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มชูกำลังแล้วทดแทนด้วยวิตามินบีรวมยามเช้าได้จะดีต่อสุขภาพในระยะยาว ถ้าง่วงแต่ไม่อยากกินกาแฟให้ตัดจบวงจรด้วย Vitamin B Complex หลังอาหารเช้าเป็นของกินแก้ง่วงได้เลย
2. มัทฉะ
นักโภชนาการท่านหนึ่งเคยกล่าวเอาไว้ว่าการดื่มกาแฟนั้นทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าในระยะเวลาหนึ่งชั่วโมงแรกหลังจากดื่มและค่อย ๆ ดิ่งลงมาราวกับรถไฟเหาะ แต่ถ้าอยากกระตุ้นให้ร่างกายมีสมาธิอยู่ตลอดเวลา ไม่ง่วงจนตาเยิ้ม ก็ต้องคาเฟอีนจาก “มัทฉะ” เครื่องดื่มแก้ง่วงซึ่งให้พลังงานความขยัน 4-6 ชั่วโมงโดยเฉลี่ยแม้จะมีปริมาณคาเฟอีนน้อยกว่ากาแฟเกือบครึ่ง ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงเป็นของกินแก้ง่วงขวัญใจชาวออฟฟิศ แนะนำว่าอย่าใส่น้ำตาลหรือเติมนมเข้าไปด้วยถ้าไม่อยากอ้วน
3. น้ำเบอร์รี่ปั่น
อีกหนึ่งเครื่องดื่มที่กินแล้วไม่ง่วง แถมยังช่วยให้ร่างกายสดชื่น กระปรี้กระเปร่าก็ต้องยกให้ “น้ำผลไม้ปั่นตระกูลเบอรี่” ซึ่งแน่นอนว่ามีสารต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องเซลล์สมองจากการถูกทำลาย ช่วยให้ร่างกายและสมองของเราทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แถมยังมีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน เพิ่มความสดชื่น กระตุ้นสมองให้รู้สึกปลอดโปร่ง ยิ่งถ้าดื่มช่วงอากาศร้อนอบอ้าวนะบอกเลยว่าฟินเกินต้าน รับรองว่าของกินแก้ง่วงอย่างน้ำผลไม้แนวนี้ช่วยคุณได้เยอะอย่างแน่นอน
4. บ๊วยเค็ม
ไหนใครเคยกินบ๊วยเค็มที่รสชาติเค็มขึ้นสมองบ้าง หลายคนมีความรู้สึกติดลบกับของกินแก้ง่วงชนิดนี้อย่างรุนแรง แต่เชื่อไหมว่าไอ้เจ้าความเค็มติดตราตรึงใจนี้ล่ะ ช่วยกระตุ้นให้สมองของเรารู้สึกเฟรชและตื่นตัวมากยิ่งขึ้น ถ้ารู้สึกว่าอยากหลับเมื่อไหร่ลองหยิบน้องมาเคี้ยวสักเม็ดสิ รู้เรื่องแน่ แต่ถึงแม้ว่าจะมีแคลเซียม และธาตุเหล็กก็ไม่ควรกินเยอะนะ
5. มะขามสามรส
อีกหนึ่งไอเทมแก้ง่วงที่ควรมี่ติดบ้านหรือโต๊ะทำงานเอาไว้ ขอยกให้ “มะขามสามรส” ซึ่งตามร้านสะดวกซื้อมีหลายเจ้า กระปุกใหญ่ กินได้นาน เลือกยี่ห้อที่ถูกปาก ตรงตามความต้องการกันได้เลย แต่ถ้าตามร้านสะดวกซื้อมันจี๊ดจ๊าด สะใจไม่พอ ช่วยให้ตาเราเปิดกว้างไม่ได้ แนะนำให้เพื่อน ๆ ซื้อมะขามเปียกมาคลุกพริกเกลือน้ำตาลเอง กินแบบสะใจ ขับถ่ายคล่องแคล่ว เป็นหนึ่งในของกินแก้ง่วงที่ใครก็หลงรัก
6. หมากฝรั่ง
ง่วง กินอะไรดี? หมากฝรั่ง นี่ล่ะไอเทมคลาสสิกทุกยุคทุกสมัยที่สามารถช่วยให้หายง่วงได้จริง เพราะการเคี้ยวซ้ำ ๆ บวกกลิ่นหอมของมินท์สดชื่นจะช่วยกระตุ้นให้เรารู้สึกตื่นตัว เลือดไหลเวียน สมองปลอดโปร่ง แต่ยุคนี้ต้องรักษาสุขภาพกันหน่อย แนะนำเลือกหมากฝรั่งที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล เน้นรสชาติเย็น กลิ่นหอมชื่นใจ เป็นของกินแก้ง่วงที่ช่วยให้เรามีสติอยู่กับตัวเองตลอดเวลาด้วยนะ
7. แอปเปิล
ใครจะไปคาดคิดว่าแอปเปิลก็เป็นของกินแก้ง่วงกับเขาเหมือนกัน หากเรากินแอปเปิลตอนเช้าจะช่วยให้อิ่มท้องนานมากยิ่งขึ้น โดยที่ร่างกายไม่ต้องย่อยอาหารหนักมากเกินไป จึงช่วยลดความง่วงได้ อีกทั้งน้ำตาลในผลไม้ก็ยังทำให้เรารู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า ถ้ากินกาแฟไม่ได้ลองเปลี่ยนมาทานแอปเปิลแทนสิ ช่วยได้นะ
8. ดาร์กช็อกโกแลต
ถ้าไม่รู้จะกินอะไรดีแก้ง่วง กรณีคนที่ไม่ได้ควบคุมน้ำหนัก “ดาร์กช็อกโกแลต” ก็เป็นอีกหนึ่งของกินแก้ง่วงที่ตอบโจทย์ เนื่องจากมีคาเฟ่อีนอยู่จำนวนหนึ่ง และยังประกอบไปด้วยสารธีโอโบรมีน (theobromine) ซึ่งคล้ายคลึงกับคาเฟอีน ช่วยให้ร่างกายตื่นตัว มีความสุข เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปวัยเด็กอีกครั้ง
9. ถั่วนานาชนิด
บรรดาถั่วทั้งหลาย ขึ้นชื่อว่าเป็นพีชมีโปรตีน กินแล้วอิ่มท้อง ให้พลังงานสูง ส่วนหนึ่งก็เพราะมีแมกนีเซียมทำหน้าที่เปลี่ยนน้ำตาลให้เป็นพลังงาน ช่วยให้ร่างกายดึงไปใช้งานได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น เมื่อไม่หิวบ่อย ก็จะไม่ทานของจุกจิก ระบบย่อยอาหารทำงานน้อย ทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย เมื่อยล้าน้อยลง
และทั้งหมดนี้ก็คือ 9 ของกินแก้ง่วง สำหรับคนดื่มกาแฟไม่ได้ที่เราอยากแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้ลองเซฟเก็บเอาไว้เป็นองค์ความรู้เพื่อเลือกซื้อ หรือเลือกรับประทานอาหารที่ทำให้ร่างกายสดชื่น ตื่นตัวมากยิ่งขึ้น จะได้มีแรงกาย แรงใจทำงาน เรียนหนังสือเพื่ออนาคตต่อไป ยุทธศาสตร์นี้ยิ่งใหญ่นัก เพราะถ้าง่วงทุกอย่างก็จบ จริงไหมคะ
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ DailyLifeStyle