![คีย์บอร์ด Red Switch](https://dailylifestyle.co/wp-content/uploads/2023/06/Artboard-10-1024x683.jpg)
หากคุณคือคนหนึ่งที่กำลังนั่งพิมพ์งานอย่างหนักหน่วง เล่นเกมที่ต้องอาศัยการกดคีย์บอร์ดซ้ำ ๆ แต่กลับกดไม่สนุก พิมพ์งานแล้วเมื่อยมือ ปุ่มแข็ง ปัญหาเหล่านั้นจะหมดไปหากรู้จักกับคีย์บอร์ด Red Switch ซึ่ง DailyLifeStyle อยากแนะนำแก่คนที่เข้าวงการ Mechanical Keyboard มือใหม่อย่างมาก ใครตามหาคีย์บอร์ดกดง่าย กดไว พิมพ์งานสนุก เรามีมาแนะนำ
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่
7 คีย์บอร์ด Red Switch คีย์บอร์ด Mechanical ยี่ห้อไหนดี พิมพ์สนุกมือ เล่นเกมมันส์
1.Keychron K3 Pro
![คีย์บอร์ด Red Switch](https://dailylifestyle.co/wp-content/uploads/2023/06/Artboard-70-1024x683.jpg)
ขอพาเพื่อน ๆ มาเริ่มกันด้วยคีย์บอร์ด Keychron K3 Pro จริง ๆ เจ้าตัวนี้เขาไม่ได้มีแค่ Red Switch หรอกนะ ใครชอบ Blue หรือ Brown เลือกได้ตามใจชอบ ความพิเศษคือสวิตซ์ของเขามาในรูปแบบคีย์บอร์ด Low Profile ต่ำ ๆ ให้จังหวะช่วงกดที่รวดเร็วมากกว่าคีย์บอร์ดธรรมดา ไม่ยวบยาบ เหมาะสำหรับคนที่ใช้แป้นพิมพ์ Laptop มาก่อน อยากทำงานได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น แต่ก็รำคาญจังหวะการกดอันแสนยวบยาบ
ข้อมูลเพิ่มเติม
ราคา : 4,390 บาท
Layout : 75%
Numpad : ไม่มี
การเชื่อมต่อ : ไร้สาย / มีสาย
2.Nubwo X30 Terminator Gaming Keyboard
![คีย์บอร์ด Red Switch](https://dailylifestyle.co/wp-content/uploads/2023/06/Artboard-60-1024x683.jpg)
สำหรับคนที่กำลังตามหาคีย์บอร์ด Red Switch และเป็นคีย์บอร์ด Full size ที่เหมาะสำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะ เราขอแนะนำเจ้าตัว X30 Terminator Gaming Keyboard นี้เลย ส่วนเรื่องสวิตซ์เขาใช้ของ Outemu มั่นใจด้านคุณภาพ กดลื่น เสียงเบา เปลี่ยนคีย์แคปได้ จัดเต็มไฟ RGB ซื้อแล้วมาพร้อมแผ่นรองแขน ไม่ต้องไปสรรหาเพิ่ม คุ้มค่า สบายใจ
ข้อมูลเพิ่มเติม
ราคา : 1,490 บาท
Layout : Full-Size
Numpad : มี
การเชื่อมต่อ : มีสาย
3.Royal Kludge RK100 White Wireless Mechanical Keyboard
![คีย์บอร์ด Red Switch](https://dailylifestyle.co/wp-content/uploads/2023/06/Artboard-50-1024x683.jpg)
สายพิมพ์งานมามุงทางนี้จ้า คีย์บอร์ด Red Switch RK100 คือสุดยอดแห่งความคุ้มค่า หากคุณกำลังตามหาคีย์บอร์ด กะทัดรัด ไม่เปลืองพื้นที่ มีปุ่มต่าง ๆ มาให้ครบ บอกเลยเจ้าตัวนี้ตอบโจทย์มากที่สุด สาย IT หลายคนก็ใช้ แถมดีไซน์ Minimal เหมาะสำหรับแต่งห้อง รองรับ Hot Swapping เปลี่ยนสวิตซ์ใหม่ตามใจต้องการได้โดยไม่ต้องบัดกรี เพิ่มเติมคือสวิตช์เป็นแบรนด์ของเขาเอง มาพร้อมไฟ RGB วิบวับ โดนใจ Custom สนุกสุด
ข้อมูลเพิ่มเติม
ราคา : 2,890 บาท
Layout : 96%
Numpad : มี
การเชื่อมต่อ : ไร้สาย / มีสาย
4.NuPhy Air75 Wireless Mechanical Keyboard
![คีย์บอร์ด Red Switch](https://dailylifestyle.co/wp-content/uploads/2023/06/Artboard-40-1024x683.jpg)
NuPhy ถือว่าเป็นแบรนด์ IT ระดับ Hi-end คีย์บอร์ด Red Switch ของแบรนด์นี้เขาไม่ได้มาเล่น ๆ อย่างแน่นอน แต่ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่าเขาคือแมคคานิคอลคีย์บอร์ด Low Profile ทำให้จังหวะการกดสั้น และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับการพิมพ์งาน คนทำงานอย่างมาก Layout แคบนิ้วมือผู้หญิงกดสบาย คีย์แคปรับสรีระนิ้วมือ เสียงเบา พกพาสะดวก ใช้งานไม่ดีเลย์ ใครชอบทำงานนอกสถานที่พกพาไปต่างจังหวัดสบายมาก
ข้อมูลเพิ่มเติม
ราคา : 4,390 บาท
Layout : 75%
Numpad : ไม่มี
การเชื่อมต่อ : ไร้สาย / มีสาย
5.Dareu EK868 Wireless Mechanical Gaming Keyboard
![คีย์บอร์ด Red Switch](https://dailylifestyle.co/wp-content/uploads/2023/06/Artboard-30-1024x683.jpg)
มาต่อกันด้วยคีย์บอร์ด Mechanical ถูกและดีที่เราอยากแนะนำ เจ้าตัวนี้มีให้เลือกทั้งคีย์บอร์ด Red Switch, Blue Switch และ Brown Switch ซึ่ง มาในรูปแบบ Low Profile ไม่รองรับ Hot Swapping ตัวนี้มีแป้นพิมพ์ 65% ไม่มีบรรดาปุ่ม F ทั้งหลายด้านบน เหมาะสำหรับสายเล่นเกมมาก แต่ก็เพียงพอสำหรับสายพิมพ์งานเช่นกัน คีย์แคปขนาดใหญ่หน่อย กดง่าย ถ้าชินมือแล้ว ค่อนข้างเหมาะสำหรับคนหลากหลายรูปแบบ แต่จริง ๆ ขนาดเขาก็ไม่ได้เล็กสักเท่าไรเมื่อเทียบกับเลย์เอาท์ปกติของ Laptop
ข้อมูลเพิ่มเติม
ราคา : 1,990 บาท
Layout : 65%
Numpad : ไม่มี
การเชื่อมต่อ : ไร้สาย / มีสาย
6.Philips Mechanical Keyboard SPK8605
![คีย์บอร์ด Red Switch](https://dailylifestyle.co/wp-content/uploads/2023/06/Artboard-20-1024x683.jpg)
คีย์บอร์ด Mechanical ราคาหลักร้อยตัวแรกที่เราอยากแนะนำสำหรับผู้เริ่มต้นก็คือเจ้า Philips SPK8605 ตัวนี้มีแต่คำว่าคุ้ม นอกจากจะเป็น Full size แล้วก็ยังมี Knob ปรับเพิ่ม ลดระดับเสียงมาให้อีกด้วย เท่านั้นไม่พอทางแบรนด์แถมที่รองข้อมือแม่เหล็ก คุ้มเกินต้าน น้ำหนักเบามาก แต่ปุ่มก็จะเหลี่ยมหน่อย สามารถซื้อคีย์แคปมาเปลี่ยนได้ ที่สำคัญและสนุกถูกใจเกมเมอร์ก็คือเราสามารถ Custom ไฟคีย์แคปเองได้ มีให้เลือกสองสีแค่ขาวและดำ เป็นคีย์บอร์ด Red Switch ที่อยากแนะนำสำหรับผู้เริ่มต้นมาก
ข้อมูลเพิ่มเติม
ราคา : 890 บาท
Layout : Full size
Numpad : มี
การเชื่อมต่อ : มีสาย
7.TSUNAMI Outemu MK-100 Pudding Mechanical Gaming Keyboard
![คีย์บอร์ด Red Switch](https://dailylifestyle.co/wp-content/uploads/2023/06/Artboard-80-1024x683.jpg)
สำหรับคนที่ชื่นชอบคีย์บอร์ด 96% แต่สู้ราคาเจ้า RK100 ไม่ไหว ขอเชิญทางนี้ TSUNAMI Outemu MK-100 Pudding เป็นคีย์บอร์ด Red Switch มาพร้อมขนาดกะทัดรัดขั้นสุด มี Rainbow RGB ให้สายเกมมิ่งได้ฟินแล้วก็ยังไม่พอ เพราะคีย์แคปพุดดิ้ง ด้านล่างใสทำให้ไฟออกมาสวยงามมากยิ่งขึ้น ปุ่มถูกออกมาแบบมารองรับสรีระ กดง่าย ฟังก์ชันการใช้งานครบโดยที่ไม่ต้องโยกย้ายมือไกล เหมาะสำหรับนักเขียนที่ชอบฟีลลิ่งการพิมพ์แบบหนึบ ๆ แต่เสียงเงียบ คีย์แคปติดกันดีงาม พิมพ์แล้วไม่ค่อยเมื่อยมือ แถมราคาดีงาม ช่วงไหนมีโปรโมชั่นหรือส่วนลด ราคาตกอยู่ที่หลักร้อยเท่านั้น!!
ข้อมูลเพิ่มเติม
ราคา : 1,990 บาท
Layout : 96%
Numpad : มี
การเชื่อมต่อ : มีสาย
และนี่ก็คือทั้ง 7 คีย์บอร์ด Red Switch ที่เราอยากแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้ลองใช้งาน คัดสรรมาหลากหลาย ตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน ดีไซน์ก็แตกต่างกันออกไป เชื่อว่าน่าจะครอบคลุม และตอบโจทย์ผู้ใช้งานทุกรูปแบบ เป็นอย่างไรบ้างคะ ถูกใจกันบ้างไหมเอ่ย ตัวไหนต้องตา ราคาพอไหว ก็อย่าลืมไปสอยน้องมาลองน้า แอบกระซิบว่าดูรีวิวอีกเยอะ ๆ ก็ดีเพื่อความมั่นใจหากต้องซื้อของแบบออนไลน์!!